คลายข้อสงสัย! ปัญหาไฟตกเกิดจากอะไร พร้อมวิธีรับมือให้ปลอดภัย

 

Key Takeaway

  • ปัญหาไฟตก เป็นปัญหาที่เกิดจากระบบไฟฟ้าขัดข้อง หรือการที่มีแรงดันไฟฟ้า และทำการจ่ายไฟฟ้าต่ำกว่าที่กำหนด จนอาจทำให้เกิดไฟกระตุก และเครื่องใช้ไฟฟ้าขัดข้องได้
  • ปัญหาไฟตก เกิดจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ไฟกระชาก สายไฟชำรุด ตัวนำไฟฟ้าเกิดขัดข้อง กระแสไฟไหลลงดิน บ้านละแวกเดียวกันแย่งกันใช้ไฟฟ้า หรือการที่อยู่ไกลสถานีจ่ายไฟ 
  • ปัญหาไฟตกภายในบ้าน แก้ไขได้โดยการถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ได้ใช้ เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน ตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และติดตั้งอุปกรณ์ช่วยรักษาความปลอดภัย 

 

หลายๆ บ้านคงเคยประสบปัญหาไฟตก ที่มักสร้างความรำคาญใจ แถมยังเป็นสถานการณ์ที่พบได้แทบจะตลอดเวลา เหตุการณ์ไฟตกนั้นส่งผลกระทบมากกว่าคิด โดยเฉพาะกับเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่อาจทำให้อายุการใช้งานสั้นลง หรืออาจทำให้ไฟฟ้าช็อตจนเกิดอัคคีภัยได้ บทความนี้จะพาไปคลายข้อสงสัยว่าไฟตกเกิดจากอะไร มีผลกระทบอะไรบ้าง พร้อมวิธีแก้ไฟตกในบ้าน เพื่อคลายข้อกังวลแก่คนในบ้าน

ปัญหาไฟตก มีลักษณะอย่างไร

ปัญหาไฟตก เป็นปัญหาที่เกิดจากระบบไฟฟ้าเกิดการขัดข้อง คือการที่มีแรงดันไฟฟ้าทำการจ่ายไฟฟ้าต่ำกว่าที่กำหนด โดยปกติแล้ว ภายในบ้านเรือนทั่วไปจะรับไฟฟ้าประมาณ 220 โวลต์ (V) ซึ่งเป็นค่าที่อยู่ในระดับปลอดภัย ไม่ทำให้เกิดอันตราย แต่ถ้าในกรณีที่ไฟตก แรงดันไฟฟ้าจะต่ำกว่า 220 V หรือต่ำกว่า 5% ที่กำหนดไว้ จนอาจส่งผลให้เกิดไฟกระตุก และทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเกิดการขัดข้องได้

ไฟตก VS ไฟกระชาก แตกต่างกันอย่างไร

ไฟตก VS ไฟกระชาก แตกต่างกันอย่างไร

ทั้งปัญหาไฟตก และปัญหาไฟกระชากนั้นมีความเหมือนกันตรงที่เกิดจากสภาวะแรงดันที่ผิดปกติ  แต่มีความแตกต่างกันตรงดังต่อไปนี้

  • ปัญหาไฟตก มีลักษณะแรงดันไฟฟ้าตกลงอย่างเฉียบพลัน จนต่ำกว่า 220V ทำให้ไฟฟ้าไม่เพียงพอต่อการใช้งาน เช่น พัดลมหมุนช้าลง เป็นต้น 
  • ปัญหาไฟกระชาก มีลักษณะแรงดันไฟฟ้าที่ไม่เสถียรแบบเฉียบพลัน อาจน้อยกว่า 220V หรือบางครั้งก็อาจเกิน 220V จนส่งผลให้ไฟบ้านติดๆ ดับๆ ในขณะที่เปิดแอร์ 

ปัญหาไฟตก เกิดจากอะไรได้บ้าง

ปัญหาไฟตก เกิดจากอะไรได้บ้าง

 ไฟตก เกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเกิดจากสภาพแวดล้อมภายนอก หรือตัวระบบไฟฟ้าภายใน มาสำรวจสาเหตุที่ทำให้ไฟตก เพื่อจะได้แก้ไขกันอย่างเหมาะสมดีกว่า

 

สภาพอากาศ

สภาพอากาศในช่วงที่มีฝนตกหนักอาจส่งผลให้ไฟตกได้ เพราะสภาพอากาศจะอยู่ในช่วงที่มีความชื้นสูงกว่าปกติ ทำให้ระบบไฟฟ้าทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หรืออาจเกิดสถานการณ์ที่มีฟ้าผ่าจนไฟฟ้าเกิดลัดวงจร ลมแรง มีพายุจนทำให้ต้นไม้ล้มทับสายไฟ จนส่งผลให้แรงดันไฟฟ้ามีค่าต่ำกว่าปกติ

 

ไฟกระชาก

หากเกิดไฟกระชาก จะทำให้แรงดันกระแสไฟฟ้าขาดประสิทธิภาพในการจ่ายไฟชั่วคราว จนส่งผลให้มีแรงดันไฟฟ้าต่ำกว่าปกติ ระบบไฟฟ้าจึงเกิดการกระตุกขึ้น จนทำให้ไฟฟ้าขัดข้อง

 

สายไฟชำรุด

หากใช้ไฟเป็นเวลานานๆ สายไฟอาจเกิดการชำรุดได้ ทำให้ทองแดงที่เป็นฉนวนในการนำไฟฟ้าขาด หรือละลาย ซึ่งทำให้เกิดปัญหาต่อการทำงานของตัวนำไฟฟ้า จึงส่งผลให้เกิดไฟตกได้

 

ตัวนำไฟฟ้าขัดข้อง

ตัวนำไฟฟ้าทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการจ่ายกระแสไฟฟ้าภายในบ้าน เมื่อตัวนำไฟฟ้าช็อต หรือขัดข้อง จะทำให้ระบบไฟฟ้าทำงานไม่ได้ประสิทธิภาพ จนทำให้เกิดไฟตกนั่นเอง

 

กระแสไฟไหลลงดิน

กระแสไฟไหลลงดิน

การที่กระแสไฟฟ้าไหลลงดินนั้นเกิดจากการที่ฉนวนไฟฟ้าชำรุด การติดตั้งสายดินที่ไม่ได้มาตรฐาน หรืออาจเกิดจากการไม่ตรวจสอบความพร้อมใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ดี หากไฟตกเกิดจากการที่กระแสไฟฟ้าไหลลงดิน อาจทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าขัดข้อง จนก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้งานได้

 

อยู่ไกลสถานีจ่ายไฟ

ตามหลักแล้ว สถานีจ่ายไฟฟ้าควรอยู่ห่างจากที่พักอาศัยพอสมควร เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม หากที่อยู่อาศัยอยู่ไกลจากสถานีจ่ายไฟมากเกินไป อาจทำให้การจ่ายกระแสไฟฟ้าช้าลง ไม่ทันใช้งาน จนทำให้เกิดปัญหาไฟตกในที่สุด

 

ใช้ไฟฟ้ามากเกินไป

หากบ้านไหนใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าพร้อมกันทีละมากๆ อาจทำให้กระแสไฟฟ้าส่งไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ไม่ทั่วถึงมากพอต่อความต้องการ จึงอาจทำให้เกิดไฟช็อต ไฟตก ซึ่งส่งผลให้เครื่องใช้ไฟฟ้าขัดข้องจนไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ

 

บ้านในละแวกเดียวกันแย่งกันใช้ไฟฟ้า

หากบริเวณที่พักอาศัยที่คุณอยู่ มีบ้านเรือนอาศัยอยู่หลายหลังคาเรือน อาจส่งผลให้การจ่ายไฟฟ้าจากสถานีจ่ายไฟไม่สามารถจ่ายไฟได้อย่างทั่วถึง และไม่มากพอต่อความต้องการของแต่ละบ้าน จนนำมาสู่การยื้อแย่งไฟฟ้ากันใช้ ส่งผลทำให้เกิดไฟตกได้

 

ปัญหาไฟตก ส่งผลกระทบต่ออะไรบ้าง

ปัญหาไฟตก ส่งผลกระทบต่ออะไรบ้าง

ปัญหาไฟตกอาจส่งผลกระทบมากมายหลายภาคส่วน ตั้งแต่บ้าน โรงแรม หอพัก โรงงาน และโรงพยาบาล ซึ่งผลกระทบก็จะแตกต่างกันไป ดังนี้

บ้าน โรงแรม หอพัก

สำหรับสถานที่อย่างบ้าน โรงแรม หรือหอพัก หากเกิดไฟตกก็ย่อมสร้างผลกระทบมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะกับเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ปั๊มน้ำ พัดลม เครื่องปรับอากาศ เป็นต้น ที่เมื่อหยุดทำงานไปอย่างกะทันหัน อาจทำให้การดำเนินชีวิตลำบากมากขึ้น 

อีกทั้งอาจเกิดการร้องเรียนจากแขกที่เข้าพักในโรงแรม หรือหอพักได้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ปัญหาไฟตก ไม่ได้สร้างแค่ความลำบากใจกับผู้อยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหาย และเสี่ยงเกิดเหตุไฟไหม้ เพราะไฟฟ้าเกิดลัดวงจร และไฟช็อตขึ้นมานั่นเอง

โรงงาน

สำหรับโรงงาน หากเกิดปัญหาไฟตกขึ้นมา อาจส่งผลกระทบได้มากกว่าที่คิด เช่น หากเป็นโรงงานผลิตเพื่อส่งออก อาจทำให้ข้อมูลในคอมพิวเตอร์หายไป เครื่องใช้ไฟฟ้าอายุสั้นลง ทางโรงงานไม่สามารถผลิตสินค้าได้ตามความต้องการ หรือสินค้าเกิดความเสียหาย จนทำให้เสียชื่อแบรนด์ โดนฟ้องร้อง หรืออาจทำให้ขาดทุนได้ 

การป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไฟตก จึงเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญมาก ตั้งแต่การตรวจสอบระบบไฟฟ้า และอุปกรณ์ต่างๆ ภายในโรงงานอยู่เสมอ การใช้ตัวช่วยอย่างเครื่องสำรองไฟ หรือการติดตั้งไฟ 3 เฟส ที่จะช่วยให้กระบวนการจ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังส่วนต่างๆ มีความเสถียรขึ้น และหากเกิดเหตุฉุกเฉินอย่างไฟตกขึ้น ไฟฟ้าก็ยังสามารถทำงานได้ดี แถมยังปลอดภัยต่อผู้ใช้งานมากขึ้นอีกด้วย

 

โรงพยาบาล

หากเกิดปัญหาไฟตกในโรงพยาบาล แน่นอนว่าสร้างผลกระทบมากมายมหาศาลเลยทีเดียว ไปดูกันว่าผลกระทบที่ว่ามีอะไรบ้าง

  • ทำให้ขัดขวางการทำงานของแพทย์ขณะรักษาผู้ป่วย
  • เครื่องมือแพทย์เสียหาย จนทำให้ต้องซื้อใหม่
  • เครื่องมือแพทย์หยุดการทำงานชั่วคราว อาจส่งผลให้ผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ หรือกำลังผ่าตัด เสียชีวิตได้ 

ปัญหาไฟตก อันตรายหรือไม่

ปัญหาไฟตกเกิดได้จากหลายสาเหตุ และไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุไหน ก็ไม่ควรประมาทเด็ดขาด เพราะหากเกิดเหตุการณ์ที่ไฟตกบ่อยๆ อาจทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเกิดไฟช็อตจนเกิดไฟฟ้าลัดวงจร และนำมาสู่การเกิดเพลิงไหม้ ที่อาจอันตรายต่อชีวิต และทรัพย์สิน

ยกตัวอย่างเช่น เมื่อภายในบ้านใช้ไฟฟ้าทีละมากๆ พร้อมกัน อาจเกิดจากการเปิดเครื่องปรับอากาศ ใช้เครื่องดูดฝุ่น หรือใช้เตาไฟฟ้า ที่ล้วนเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดกินไฟสูง อาจส่งผลให้เกิดไฟกระตุก กระแสไฟฟ้าจ่ายไปไม่ทัน จนทำให้ไฟตกไปในที่สุด

 

5 วิธีแก้ปัญหาไฟตกภายในบ้าน เพื่อความปลอดภัย

5 วิธีแก้ปัญหาไฟตกภายในบ้าน เพื่อความปลอดภัย

มาดูวิธีแก้ปัญหาไฟตกภายในบ้าน เพื่อความปลอดภัยต่ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า และความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานด้วยเช่นกัน ดังนี้

1. ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ได้ใช้

ในขณะที่เสียบปลั๊ก กระแสไฟฟ้าก็ยังคงไหลเวียนอยู่เสมอ จึงควรถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าหากไม่ได้ใช้งาน เพื่อป้องกันกรณีที่เกิดการใช้ไฟฟ้าพร้อมกันทีละมากๆ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิดที่กินไฟสูง การถอดปลั๊กเสมอเมื่อไม่ใช้งาน จึงช่วยทำให้กระแสไฟฟ้าไหลเวียนได้เพียงพอต่อการใช้งาน ไม่ทำให้เกิดไฟตกนั่นเอง

 

2. เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน

มาตรฐานที่ดี นำมาสู่คุณภาพที่ดี ยิ่งเป็นอุปกรณ์อย่างเครื่องใช้ไฟฟ้า อาทิ สายชาร์จมือถือ หรือปลั๊กพ่วง ก็ยิ่งควรเลือกชนิดที่มีมาตรฐานรับรอง เพื่อความปลอดภัยขณะใช้งาน และป้องกันอันตรายเมื่อเกิดไฟตก

 

คอยตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน

3. คอยตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน

สิ่งที่สำคัญคือการตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอยู่เสมอ เพราะอาจมีการชำรุด หรือไฟฟ้าเกิดขัดข้อง จนทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ เพราะเมื่อพบเจอปัญหาส่วนไหน จะได้ทำการแก้ไขได้ในทันท่วงที

4. เลี่ยงใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อเกิดฟ้าผ่า

ช่วงหน้าฝนนี้ ต้องระวังเรื่องการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นอย่างมาก เพราะวัสดุจำพวกโลหะ อาจทำให้เกิดการเหนี่ยวนำคลื่นไฟฟ้า จนทำให้ไฟช็อตจนลัดวงจรได้ อีกทั้ง การเกิดฟ้าผ่าอาจทำให้กระแสไฟฟ้าเกิดการกระชาก และวิ่งมาตามสายไฟ สายโทรศัพท์ เสาอากาศ จนส่งผลให้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้รับความเสียหายได้ และทำให้ผู้ใช้งานได้รับอันตรายจากไฟดูดได้

 

5. ติดตั้งอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย

อย่างที่กล่าวกันไปแล้วว่า ปัญหาไฟตกเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะระวังมากเท่าไร บางทีอาจจะป้องกันปัญหาไฟตกไม่ได้ เพราะฉะนั้น การติดตั้งอุปกรณ์เพื่อรักษาความปลอดภัยจึงเป็นการแก้ปัญหาที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการติดตั้งเครื่องสำรองไฟ ที่ช่วยป้องกันไฟตกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยถนอมเครื่องใช้ไฟฟ้า ให้ได้ใช้ไปอีกนานๆ อีกทั้งยังช่วยรักษาความปลอดภัยต่อชีวิตได้อีกด้วย

 

สรุป

ปัญหาไฟตก เป็นปัญหาที่เกิดจากระบบไฟฟ้าเกิดการขัดข้อง คือการที่มีแรงดันไฟฟ้าทำการจ่ายไฟฟ้าต่ำกว่า 220 V เกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ เช่น สภาพอากาศ ไฟกระชาก สายไฟชำรุด ตัวนำไฟฟ้าขัดข้อง กระแสไฟฟ้าไหลลงดิน อยู่ห่างจากสถานีจ่ายไฟเกินไป หรืออาจเกิดจากบริเวณบ้านละแวกเดียวกันแย่งกันใช้งานไฟฟ้า เป็นต้น 

ปัญหาไฟตกนั้นอันตรายมาก เพราะอาจทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าช็อต ไฟฟ้าลัดวงจร จนอาจทำให้เกิดไฟไหม้ได้ในที่สุด จึงควรให้ความสำคัญเรื่องการป้องกันอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้า ถอดปลั๊กขณะไม่ใช้งาน เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีมาตรฐานรองรับ เลี่ยงใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าเมื่อเกิดฟ้าผ่า และควรติดตั้งอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย เพื่อป้องกันอันตรายต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า และต่อผู้ใช้งานเอง

Sorarus จึงขอเป็นทางเลือกให้คุณ เพื่อให้ระบบการทำงานภายในบ้าน โรงงาน หรือโรงพยาบาล มีคุณภาพมากขึ้น พร้อมมอบพลังงานทางเลือกด้วยการติดตั้งโซลาร์เซลล์ เพื่อเป็นพลังงานสำรอง ไม่ต้องกังวลว่าไฟจะตกจนทำให้เกิดความเสียหาย ที่นี่มีผู้เชี่ยวชาญประสบการณ์กว่า 40 ปี ผลิตภัณฑ์คุณภาพ มาตรฐานสูง พร้อมบริการปรึกษาฟรี!

โฟร์โมสต์
betagen
minor-food-group
singha
centara-grand-hotels-resorts
BJC

สงวนลิขสิทธิ์ © 2024 บริษัท อินโนเวทีฟ เอ็นเนอร์จี จำกัด