ค่าไฟแพงเพราะอะไร? มาดูวิธีประหยัดไฟฟ้า เพื่อค่าใช้จ่ายที่ถูกลงทันที

จากสภาพเศรษฐกิจในทุกวันนี้ มีปัญหาหลักๆ ที่เชื่อว่าหลายคนเริ่มหันมาให้ความสนใจมากขึ้นหลังจากมีประกาศว่าค่าไฟฟ้ากำลังจะสูงขึ้นในช่วงนี้ และยังคงมีการปรับราคาต่อยูนิตอยู่เรื่อยๆ ส่งผลกระทบต่อทั้งผู้ที่อยู่อาศัยในบ้าน คอนโด บ้านเช่า หรือแม้แต่หอพักก็ตาม เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่หลายคนอาจจะสงสัยว่าค่าไฟแพงเพราะอะไร จะเช็กค่าไฟเองต้องดูอะไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบ พร้อมวิธีประหยัดค่าไฟอย่างเห็นผล ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายต่อเดือนได้สูงมากขึ้นแน่นอน

การคำนวณค่าไฟ พิจารณาจากอะไรบ้าง

การคำนวณค่าไฟ พิจารณาจากอะไรบ้าง

ก่อนที่จะทราบวิธีการคำนวณค่าไฟด้วยตัวเองนั้น ต้องขอเกริ่นถึงองค์ประกอบหลักของค่าไฟฟ้าที่ก่อให้เกิดค่าไฟขึ้นมาในแต่ละหน่วย โดยหลักๆ จะมีอยู่ 4 อย่าง ได้แก่ 

  • ค่าไฟฐาน (ค่าพลังงานไฟฟ้า)
  • ค่า Ft (ค่าไฟฟ้าผันแปร)
  • ค่าบริการ 
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือค่า VAT 7% อันเป็นมาตรฐานค่าใช้จ่ายภาษีตามกฎหมาย 

ถ้าหากรู้องค์ประกอบของค่าไฟแล้วก็จะสามารถตรวจสอบค่าไฟได้ง่ายมาก จากการดูองค์ประกอบหลัก ดังนี้

1. ค่าไฟฐาน หรือค่าพลังงาน

ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากค่าไฟฐาน หรือค่าพลังงานไฟฟ้าหลักส่วนนี้ มาจากพลังงานไฟฟ้าที่แล่นเข้าสู่ตัวมิเตอร์แล้วคิดค่าพลังงานตามรูปแบบของสถานที่อยู่อาศัย โดยมิเตอร์จะได้รับจากการขอติดตั้งระบบไฟฟ้าของเจ้าของสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นการขอมิเตอร์ค่าไฟบ้านเดี่ยวทั่วไปสำหรับอยู่อาศัย และการขอมิเตอร์สำหรับสถานที่เพื่อการทำกิจการต่างๆ รวมถึง การขอไฟฟ้าเพื่อการใช้สำหรับกิจกรรมต่างๆ ชั่วคราวก็ตาม จะนับเป็นค่าไฟฐานทั้งหมด 

2. ค่าไฟฟ้าผันแปร หรือค่า Ft

ค่า Ft หรือค่าไฟฟ้าผันแปรนี้จะมาจากกฎของทางหน่วยงานการไฟฟ้าของประเทศ ที่จะมีการประกาศค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้า หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่าเป็นราคายูนิตค่าไฟต่อหน่วยนั่นเอง ทำให้เราสามารถนำเรตราคาตรงนี้ ไปคำนวณร่วมกับจำนวนหน่วยของค่าไฟฐาน (ค่าพลังงานไฟฟ้า) รวมกับค่าบริการเสริมอื่นๆ ก็จะสามารถเช็กยอดค่าไฟฟ้าด้วยตัวเองได้แล้ว 

3. ค่าบริการ

ค่าบริการจะมีระบุไว้เป็นกฎชัดเจนว่าเป็นค่าบริการเสริมสำหรับประชาชนเดือนละเท่าไร ในส่วนนี้จะเป็นเหมือนค่าบริการเมื่อเกิดเหตุไฟฟ้าขัดข้อง หรือต้องการเรียกใช้บริการของทางหน่วยงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคก็สามารถแจ้งเหตุได้ตลอด 24 ชั่วโมง มีค่าบริการระบุรวมไว้ชัดเจน

4. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7%)

ค่าไฟฟ้าถือเป็นค่าใช้จ่ายแบบสาธารณูปโภคที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งก็คือเป็นราคา VAT 7 % เหมือนกับสินค้าอุปโภค บริโภค และการบริการสาธารณะอื่นๆ นั่นเอง มีระบุราคา VAT 7 % ไว้ในบิลค่าไฟชัดเจน

ปัจจุบัน ค่าไฟฟ้าหน่วยละกี่บาท?

ปัจจุบัน ค่าไฟฟ้าหน่วยละกี่บาท?

สถานการณ์ค่าไฟปี 2567 ที่ทางภาครัฐได้ให้ข้อมูลล่าสุดไว้เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2567 นี้ ได้แจ้งข้อมูลค่าไฟฟ้าปีล่าสุดที่เตรียมปรับราคาแต่ละช่วง ดังนี้

  • เดือนมกราคม – เมษายน 2567 ตรึงราคาค่าไฟฟ้าของบ้านที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ให้ราคาต่อหน่วยอยู่ที่ 3.99 บาท
  • เดือนมกราคม – เมษายน 2567 ตรึงราคาค่าไฟฟ้าของบ้านที่ใช้ไฟฟ้ามากกว่า 300 หน่วยต่อเดือน ให้ราคาต่อหน่วยตรึงไว้ที่ 4.20 บาท

ยังคงเป็นมติการปรับค่าไฟฟ้าเบื้องต้นในช่วง 4 เดือนแรกนี้ ส่วนทางภาครัฐจะสามารถตรึงราคานี้ไว้ได้ต่อไปหรือไม่ ในอนาคตค่าไฟหน่วยละกี่บาท ในส่วนนี้ยังคงต้องติดตามอัปเดตกันต่อไป ส่วนการใช้งานไฟฟ้าตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน จนถึงธันวาคมของปี 2566 ที่ผ่านมา จัดอยู่ในราคายูนิตละ 3.99 บาท

หากค่าไฟแพงขึ้นจนผิดปกติ ร้องเรียนได้ไหม?

หากค่าไฟแพงขึ้นจนผิดปกติ ร้องเรียนได้ไหม?

สำหรับราคาค่าไฟที่สูงขึ้น มีปัจจัยจากการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงการขัดข้องของเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือระบบไฟฟ้าภายในบ้านก็เป็นไปได้สูงมาก แต่ถ้าหากผู้อยู่อาศัยพบว่าราคาค่าไฟแพงมากเกินไป และผิดปกติอย่างชัดเจน ในปัญหาส่วนนี้ก็สามารถร้องเรียนได้ทันที ที่หน่วยงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เบอร์โทรติดต่อ 1129 หรือสามารถร้องเรียนทาง การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เบอร์โทรติดต่อ 1130 ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน สามารถดูข้อมูลของหน่วยงานที่ให้บริการกับพื้นที่ของผู้อยู่อาศัยได้ที่ท้ายใบเสร็จค่าไฟฟ้า

สาเหตุที่ทำให้ค่าไฟแพง

 

สาเหตุที่ทำให้ค่าไฟแพง

ราคาค่าไฟฟ้าเป็นค่าใช้จ่ายที่มีความผันผวนอย่างมากในทุกๆ เดือน ซึ่งบางเดือนอาจพบว่าค่าไฟแพงมากกว่าปกติ ในส่วนนี้สามารถตรวจสอบสาเหตุที่ทำให้ราคาค่าไฟแพงผิดปกติเบื้องต้นก่อนได้ หากสาเหตุตรงกับข้อมูลต่อไปนี้ ก็นับว่าเป็นค่าใช้จ่ายโดยทั่วไปที่ยังสามารถควบคุมได้ แต่ถ้าหากไม่มีสาเหตุของราคาค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นตามการตรวจสอบข้างต้นเลย ก็สามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบบริเวณที่อยู่อาศัยของเราได้ตามท้ายใบเสร็จ ซึ่งสาเหตุที่ต้องตรวจสอบ ได้แก่

1. ค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ที่เพิ่มขึ้น 

ค่า Ft หรือราคาค่าไฟฟ้าผันแปรต่อหน่วยมีการประกาศเพิ่มขึ้นจากภาครัฐ ต้องติดตามข่าวสารราคาค่าไฟฟ้าและภาพรวมเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เพราะสาเหตุหลักๆ ที่มักพบเจอเยอะที่สุดของราคาค่าไฟแพงมักจะเป็นการเพิ่มขึ้นของค่า Ft ที่ก้าวกระโดดหลายบาท

2. พฤติกรรมการใช้ไฟฟ้า

การใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายๆ ประเภท จะค่อนข้างกินกำลังไฟเยอะ ดังนั้น ยิ่งมีการใช้งานนานมากก็จะยิ่งเพิ่มราคาค่าไฟฟ้าให้สูงตาม ในส่วนนี้ต้องตรวจสอบพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าของผู้อยู่อาศัย สามารถดึงปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกเมื่อเลิกใช้งาน เพื่อเป็นการประหยัดการไหลเวียนของไฟฟ้าโดยสิ้นเปลืองได้

3. เครื่องใช้ไฟฟ้ามีปัญหา

ปัญหาใหญ่ที่ก่อให้เกิดราคาค่าไฟแพงอย่างผิดปกติ อาจมาจากปัญหาของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการเสื่อมสภาพ หรือชำรุดเกิดไฟรั่วได้ ดังนั้น ถ้าหากพบว่าราคาค่าไฟฟ้าสูงมากขึ้นแบบผิดปกติ ต้องรีบตรวจสอบอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าหลักในทันที เพื่อป้องกันทั้งราคาค่าไฟแพงผิดปกติ และป้องกันอุบัติเหตุร้ายแรงได้

4. อากาศร้อนเกินไป

อากาศที่ร้อนมาก ก็จะยิ่งเป็นต้นเหตุของการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าเยอะมากขึ้น โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องเปลี่ยนกระแสไฟฟ้าเป็นอุณหภูมิความเย็นต่างๆ เช่น เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เครื่องทำน้ำแข็ง หรืออื่นๆ ก็ตาม สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการทำงานเปลี่ยนกระแสไฟฟ้าไปเป็นพลังงานรูปแบบอื่นๆ จะเป็นประเภทกินกำลังไฟหนักมากนั่นเอง

10 เคล็ดลับประหยัดไฟ ทำได้ยังไงบ้าง

10 เคล็ดลับประหยัดไฟ ทำได้ยังไงบ้าง

ในเมื่อราคาต่อหน่วยของค่าไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ค่าไฟแพงมากขึ้น เป็นต้นเหตุของค่าใช้จ่ายต่อเดือนที่มากเกินจำเป็น ดังนั้น ต้องมาดูเคล็ดลับการประหยัดไฟที่สามารถช่วยลดราคาค่าไฟฟ้าได้สูงมากและทำได้ง่ายมาก ไม่ต้องลงทุนใดๆ เพิ่มเติมทั้งสิ้น ดังนี้

1. ทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้า

การทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ก็จะเป็นวิธีที่ช่วยให้อุปกรณ์ทำงานไม่หนักมาก ไม่กินกำลังไฟฟ้าเยอะ เช่น ตู้เย็นที่ไม่ต้องมีการดึงระบบทำความเย็นเยอะมากเกินไปจากของที่รกไม่มีการจัดระเบียบของในตู้ หรือเครื่องดูดฝุ่น และเครื่องกรองอากาศที่ต้องปรับกำลังไฟฟ้าให้สูงขึ้นเพื่อการทำความสะอาดรอบใหม่แทนที่กองฝุ่น หรือสิ่งสกปรกตกค้างสะสมจากการใช้งานมานาน ดังนั้น การทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้าก็เป็นหนึ่งในวิธีการประหยัดค่าไฟที่ดีมากเช่นกัน

2. จัดระเบียบตู้เย็น

แนะนำว่าควรมีการจัดระเบียบตู้เย็นอยู่เสมอ เพื่อให้ระบบการทำความเย็นไปได้ทั่วถึง และไม่ต้องดึงกำลังไฟฟ้ามาใช้งานมากจนเกินความจำเป็น

3. ติดมู่ลี่บังแดด

หนึ่งในวิธีง่ายๆ ที่หลายคนมองข้ามไป วิธีการเลือกติดมู่ลี่ หรือม่านบังแดดชนิดกัน UV จะช่วยให้พื้นที่อยู่อาศัยร่วมรื่น และเย็นสบายมากขึ้น รวมถึงการใช้งานเครื่องปรับอากาศก็มีการเปลี่ยนอุณหภูมิให้เหมาะสมกับพื้นที่อยู่อาศัยอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน

4. ถอดปลั๊กเมื่อไม่ใช้งาน

กระแสไฟฟ้ามีการจ่ายให้กับอุปกรณ์อยู่ตลอดเวลาเมื่อมีการเสียบปลั๊กไฟอยู่ ถึงแม้ว่าจะปิดสวิตช์การใช้งานไปแล้วก็ตาม แนะนำให้ถอดปลั๊กอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ หลังจากไม่ได้ใช้งานแล้วทุกครั้ง จะเห็นผลลัพธ์ของราคาค่าไฟฟ้าที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจนแน่นอน

5. เปิดแอร์ให้ถูกวิธี

สาเหตุหลักที่เป็นปัญหาเรื่องราคาค่าไฟแพงของผู้อยู่อาศัยส่วนมาก มักจะเป็นการเปิดแอร์อย่างสิ้นเปลืองที่เกินความจำเป็น โดยการเปิดแอร์ให้ถูกวิธี และประหยัดราคาค่าไฟได้มากที่สุด แต่ก็ยังคงได้รับความเย็นสบายเช่นเดิม คือ ควรเปิดแอร์เฉพาะช่วงที่จำเป็นมาก หรือมีอากาศที่ร้อนจัดจริงๆ โดยควรลองเปิดพัดลมดูก่อน อาจเป็นพัดลมไอน้ำก็ทดแทนได้ และประหยัดมากกว่า ซึ่งหลายๆ คน มีพฤติกรรมติดการใช้แอร์จนชินเป็นนิสัยโดยไม่รู้ตัว แม้ว่าอากาศยังไม่ได้ร้อนมาก หรือสามารถทดแทนด้วยเครื่องทำปรับอากาศทำความเย็นประเภทอื่นๆ ได้นั่นเอง 

หากต้องเปิดจริงๆ และอยากประหยัดรายจ่ายไปด้วย ควรเปิดที่ 25 องศา ประมาณ 1 – 3 ชั่วโมง แล้วเปลี่ยนมาเปิดเป็นพัดลมแทน จะช่วยปรับอากาศโดยรวมให้เย็นยาวนานมากขึ้น และที่สำคัญคือห้ามมีช่องว่างจากการเปิดหน้าต่างระบาย หรือเปิดประตูให้แอร์รั่วไหลออกไปเด็ดขาด

6. เปลี่ยนมาใช้ไฟ LED

หลอดไฟแบบ LED เป็นหลอดไฟฟ้าแบบประหยัดพลังงานมากกว่าหลอดไฟธรรมดา ถึงแม้ว่าราคาจะสูงมากกว่าเล็กน้อย แต่ช่วยลดค่าไฟฟ้าได้มากกว่า แถมยังมีอายุการใช้งานที่นานกว่าอีกด้วย

7. หมั่นตรวจเช็กมิเตอร์ไฟ

การตรวจสอบค่าไฟด้วยตัวเอง เริ่มได้ง่ายมาจากการจดหน่วยมิเตอร์ไฟฟ้าแต่ละเดือนไว้ให้เรียบร้อย แล้วนำมาเทียบกับบิลค่าไฟฟ้าว่าตรงกันหรือไม่ อาจไม่จำเป็นต้องคำนวณแล้วพอดีแบบ 100% แต่ต้องไม่ควรมีความต่างที่มากเกินไป และเป็นวิธีการตรวจสอบค่าไฟแพงผิดปกติได้ชัดเจนมากที่สุด ควรถ่ายรูปของมิเตอร์ไฟฟ้าในวันที่ไปตรวจเช็กจดเลขยูนิตไว้เป็นหลักฐานด้วย

8. หันมาใช้ระบบเซนเซอร์จับการเคลื่อนไหว

การเลือกเปลี่ยนระบบไฟฟ้าเป็นการใช้งานของเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวให้มีการเปิดใช้งานเมื่อมีคนอยู่ และปิดตัวเมื่อไม่มีใครอยู่บริเวณนั้นแล้ว จะช่วยป้องกันการลืมปิดการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือหลอดไฟบริเวณต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ อาจเป็นการลงทุนช่วงแรกแต่รับรองว่าเห็นผลระยะยาวอย่างชัดเจน ประหยัดมากขึ้นแม้ว่าภาครัฐจะประกาศเพิ่มค่า Ft ยูนิตค่าไฟฟ้าขึ้นในทุกๆ ปีก็ไม่มีกังวล

9. เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดไฟเบอร์ 5

เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีสติกเกอร์การันตีเบอร์ 5 ติดอยู่ เป็นสัญลักษณ์ของการรับรองจากหน่วยงานการไฟฟ้าอย่างถูกต้องว่าเป็นระบบประหยัดการใช้พลังงาน และประหยัดค่าไฟแน่นอน

10. ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์

หนึ่งในอุปกรณ์ที่คุ้มค่ามากที่สุดในเรื่องการช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าที่สุด จนหลายๆ บ้าน จ่ายค่าไฟฟ้าไม่ถึง 200 บาทต่อเดือนก็เกิดขึ้นได้จริง และยังคงสามารถใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ อำนวยความสะดวกสบายได้ตามปกติ แต่อาจต้องวางแผนการลงทุนเพิ่มเติมระบบนี้เล็กน้อย แต่รับประกันความคุ้มค่าสูงด้วยระบบการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่จะดึงพลังงานแสงอาทิตย์ตลอดทั้งวัน มาจัดเก็บในรูปแบบของพลังงานสำรอง และสามารถใช้งานเป็นพลังงานตลอดทั้งวันได้เรื่อยๆ เหมาะกับประเทศไทยที่มีอากาศร้อนแดดจัดอย่างมาก 

หากใครที่กำลังสนใจแต่ยังไม่ได้ศึกษาข้อมูลโดยละเอียด ต้องขอแนะนำทุกบริการด้านข้อมูลที่เข้าใจง่าย และมีคำปรึกษาดีๆ ในการช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าแก้ปัญหาค่าไฟแพง ช่วยประหยัดเงินทุนของการทำระบบแผงโซลาร์เซลล์กับทาง Sorarus ที่มีโซลาร์เซลล์ได้มาตรฐาน พร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการติดตั้ง หากกำลังมองบริษัทติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่เชื่อถือได้ มาที่นี่ได้เลย

สรุป

ค่าไฟแพงดูได้จากสาเหตุหลักๆ เบื้องต้น ซึ่งผู้อยู่อาศัยสามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเอง เริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้า และการเปิดใช้งานเครื่องปรับอากาศให้ถูกวิธี เพราะเป็นเรื่องที่เชื่อว่าหลายๆ คน มักใช้งานอย่างสิ้นเปลืองกำลังไฟ และเป็นสาเหตุของราคาค่าไฟที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ถ้าหากตรวจสอบอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ แล้วว่าไม่มีปัญหาขัดข้องชำรุดใดๆ สามารถแจ้งร้องเรียนเพื่อขอตรวจสอบราคาค่าไฟแพงผิดปกติไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตามท้ายใบเสร็จค่าไฟฟ้า โดยจะมีอยู่ 2 หน่วยงานหลัก ได้แก่ หน่วยงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เบอร์โทรติดต่อ 1129 หรือสามารถร้องเรียนทาง การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เบอร์โทรติดต่อ 1130 ตลอด 24 ชั่วโมง

Leave a comment



สงวนลิขสิทธิ์ © 2021 บริษัท อินโนเวทีฟ เอ็นเนอร์จี จำกัด