ด้วยสภาพอากาศของเมืองไทยที่ร้อนจัด อีกทั้งปัญหาสภาพอากาศในปัจจุบัน ทั้งปัญหาฝุ่นละออง และปัญหามลพิษทางอากาศ ทำให้คนเราต้องหาวิธีคลายร้อนด้วยการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เยอะขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดแอร์ เครื่องฟอกอากาศ หรือพัดลม สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลให้ค่าไฟสูงขึ้นทั้งนั้น ในบทความนี้ทาง Sorarus จะมาแชร์เคล็ดไม่ลับ 11 วิธีประหยัดไฟฟ้าอย่างเห็นผลกัน!
1. คำนวณค่าไฟด้วยตนเอง เพื่อวางแผนการใช้ไฟฟ้า
วิธีประหยัดไฟฟ้าวิธีที่ 1 ลองคำนวณค่าไฟด้วยตนเอง เพื่อวางแผนประหยัดค่าไฟ โดยเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละตัว มีกำลังไฟฟ้าหรือที่เรียกว่า ‘จำนวนวัตต์’ ที่แตกต่างกันออกไป โดยให้ใช้สูตรการคำนวณ ดังนี้
กำลังไฟฟ้า (วัตต์) x จำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้า ÷ 1000 x จำนวนชั่วโมงที่ใช้ใน 1 วัน = จำนวนหน่วยต่อวัน (ยูนิต)
ยกตัวอย่างการคำนวณ ดังนี้
-
- หลอดไฟขนาด 50 วัตต์ จำนวน 4 ดวง เปิดใช้งานวันละ 8 ชั่วโมง = 50 x 4 ÷ 1000 x 8 = 1.6 ยูนิตต่อวัน (เดือนละ 48 หน่วย)
-
- ตู้เย็นขนาด 125 วัตต์ จำนวน 1 เครื่อง เปิดใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง = 125 x 1 ÷ 1000 x 24 = 3 ยูนิตต่อวัน (เดือนละ 90 หน่วย)
-
- แอร์ขนาด 1,200 วัตต์ จำนวน 3 เครื่อง เปิดใช้งาน 10 ชั่วโมง = 1,200 x 3 ÷ 1000 x 10 = 36 ยูนิตต่อวัน (เดือนละ 1,080 หน่วย)
รวมทั้งสิ้นเดือนละ 1,218 หน่วย
นำหน่วยที่ได้มาเทียบกับอัตราค่าบริการตามค่าพลังงานไฟฟ้า
-
- 35 หน่วยแรก หน่วยละ 3.2405 = 35 x 3.2405 = 113.5 บาท
- 115 หน่วยถัดไป หน่วยละ 3.7171 = 115 x 3.7171 = 427.5 บาท
- 250 หน่วยถัดไป หน่วยละ 4.2218 = 250 x 4.2218 = 1,055.5 บาท
- เกินกว่า 400 หน่วย หน่วยละ 4.4217 = (1,080 - 400 หน่วย = 680 หน่วย) นำ 680 x 4.4217 = 3,007 บาท
ค่าไฟต่อเดือนจะอยู่ที่ 4,603.5 บาท โดยราคานี้ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่การไฟฟ้าเรียกเก็บ สำหรับใครที่อยากประมาณค่าไฟของทางการไฟฟ้าผ่านระบบคำนวณ สามารถเข้าไปใช้ระบบคำนวณค่าไฟของการไฟฟ้านครหลวง และระบบคำนวณค่าไฟของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้เลย
2. ลดการใช้แอร์
วิธีประหยัดไฟฟ้าวิธีที่ 2 ลดการใช้แอร์ แน่นอนว่าเครื่องปรับอากาศเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในชีวิตประจำวัน การลดใช้แอร์ แล้วหันมาใช้พัดลม หรือเปิดหน้าต่างรับลม ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการประหยัดค่าไฟฟ้า หากเริ่มทำแรกๆ อาจจะยังไม่ชิน แนะนำให้ลองปรับระยะเวลาการใช้งานในแต่ละวันดูก่อน เช่น จากเดิมเปิดแอร์ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นการหันมาเปิดแอร์ 12 ชั่วโมงหรือน้อยกว่านั้น ก็จะประหยัดค่าไฟได้หลายบาทเลยทีเดียว หรืออีกวิธีที่ช่วยลดการใช้แอร์ได้คือการเปิดแอร์อุณหภูมิไม่ต่ำมากพร้อมกับเปิดพัดลม จะช่วยให้แอร์ไม่ต้องทำงานหนัก และสามารถลดค่าไฟได้อีกด้วย
3. จัดตู้เย็นเป็นระเบียบ
วิธีประหยัดไฟฟ้าวิธีที่ 3 การจัดระเบียบตู้เย็น เป็นอีกหนึ่งวิธีช่วยประหยัดค่าไฟได้ หากตู้เย็นของคุณเต็มไปด้วยสิ่งของต่างๆ ทั้งที่แกะแล้วหรือยังไม่แกะ จะทำให้ตู้เย็นทำงานหนักขึ้นหลายเท่า อีกทั้งยังมีเชื้อแบคทีเรียสะสมในตู้เย็นด้วย การจัดระเบียบตู้เย็นให้เรียบร้อย วางสิ่งของให้เป็นระเบียบ ก็จะช่วยให้ตู้เย็นกินไฟน้อยลงได้นั่นเอง
4. วางแผนซักรีดให้ดี
วิธีประหยัดไฟฟ้าวิธีที่ 4 วางแผนการซักรีดให้ดี อีกหนึ่งปัญหาที่เพิ่มค่าไฟภายในบ้านอยู่ตลอด เพราะต้องใช้ทั้งเครื่องซักผ้า เตารีด หรือบางบ้านอาจมีเครื่องอบผ้าอีก การซักผ้าบ่อยๆ จะทำให้ค่าไฟเพิ่มมากขึ้น และยังเปลืองน้ำอีกด้วย การจัดตารางซักรีดให้ดี ซักผ้าทีละเยอะๆ และไม่ซักบ่อยๆ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีลดค่าไฟฟ้าในบ้านได้ดีอีกด้วย ดังนั้นจึงควรวางแผนว่าปริมาณเสื้อผ้ามีมากน้อยขนาดไหน สามารถรวมซักครั้งเดียวสัปดาห์ละ 1 ครั้งได้หรือไม่? หากมีเสื้อผ้าค่อนข้างเยอะจนซักแค่ครั้งเดียวต่อสัปดาห์ไม่ไหว แนะนำให้ลองซักทุกๆ 3 วันดูก่อน แล้วจึงปรับลดจำนวนวันที่จะซักผ้าตามความเหมาะสม
5. ถอดปลั๊กทุกครั้งที่ไม่ใช้งาน
วิธีประหยัดไฟฟ้าวิธีที่ 5 ถอดปลั๊กหลังใช้งานเสร็จทุกครั้ง บางคนอาจยังเข้าใจผิดอยู่ว่า การเสียบปลั๊กทิ้งไว้ ไม่ได้กินไฟแต่อย่างใด ซึ่งการเสียบปลั๊กทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ใช้งาน เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะว่ากระแสไฟฟ้าอาจกำลังไหลวนอยู่ระหว่างเต้ารับกับสายไฟก็ได้ พฤติกรรมนี้นอกจากจะกินไฟแล้วยังเสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรอีกด้วย จึงควรถอดปลั๊กทุกครั้งหลังใช้งาน เพื่อให้บ้านมีระเบียบ ปลอดภัย และประหยัดค่าไฟมากขึ้น
6. ลดการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟ
วิธีประหยัดไฟฟ้าวิธีที่ 6 ลดการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้าเช่น เครื่องซักผ้า หรือเครื่องอบผ้า เครื่องดูดฝุ่น หรือเครื่องปรับอากาศ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้ากินไฟอันดับต้นๆ ในบ้าน หากเราสามารถลดการใช้งานพวกนี้ได้ก็จะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดค่าไฟฟ้าในบ้านได้ด้วย ลองหันมาดูดฝุ่นสัปดาห์ละครั้ง รวมผ้ามาซักสัปดาห์ละครั้งถึงสองครั้ง หรือตั้งเวลาเปิดปิดแอร์ให้เหมาะสม เท่านี้ค่าไฟก็จะช่วยลดค่าไฟได้แล้ว
7. หมั่นทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้า
วิธีประหยัดไฟฟ้าวิธีที่ 7 ยิ่งทำความสะอาด ยิ่งประหยัด! เครื่องใช้ไฟฟ้ายิ่งมีฝุ่นเยอะเท่าไร การทำงานก็จะหนักขึ้นแล้วค่าไฟเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น จึงควรหันมาทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอเช่น ควรล้างแอร์ทุก 6 เดือน เพื่อนำเศษฝุ่นและสิ่งสกปรกออกมา เพื่อให้แอร์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังช่วยลดค่าไฟได้อีกด้วย
8. ติดตั้งเซนเซอร์จับการเคลื่อนไหว
วิธีประหยัดไฟฟ้าวิธีที่ 8 ติดเซนเซอร์จับการเคลื่อนไหวภายในบ้านช่วยประหยัดค่าไฟ โดยเฉพาะกับผู้ที่มีอาการหลงๆ ลืมๆ อาจลืมปิดไฟก่อนออกจากบ้าน เซนเซอร์จับการเคลื่อนไหวจะทำการปิดไฟ และปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นให้แบบอัตโนมัตินั่นเอง
9. เลือกใช้หลอดไฟ LED
วิธีประหยัดไฟฟ้าวิธีที่ 9 เลือกใช้หลอดไฟ LED โดยเฉลี่ยแล้วการเลือกใช้หลอดไฟ LED ช่วยประหยัดค่าไฟไปได้ถึง 50-80% เมื่อเทียบกับการใช้ไฟแบบปกติ นอกจากนี้หลอดไฟ LED ช่วยให้บ้านดูสว่างมากขึ้น แล้วยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานเฉลี่ย 50,000 ชั่วโมง หรือมากกว่า 5 ปี ดังนั้นยิ่งเปลี่ยนหลอดไฟภายในบ้านเป็นหลอดไฟ LED ได้มากเท่าไหร่ จะยิ่งประหยัดค่าไฟได้มากขึ้น นับว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีประหยัดค่าไฟที่คนส่วนใหญ่เริ่มเปลี่ยนเป็นอันดับแรก
10. เลือกใช้ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
วิธีประหยัดไฟฟ้าวิธีที่ 10 เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีสลากประหยัดไฟเบอร์ 5 หลายๆ คนคงเคยได้ยินคำว่า ‘เวลาเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ให้เลือกใช้เครื่องที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5’ ซึ่งจริงๆ แล้วฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เป็นฉลากที่มีการระบุข้อมูลเบื้องต้น ทั้งยังมีการคำนวณค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อปี รวมถึงประสิทธิภาพของสินค้า ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจในคุณภาพสินค้าที่ได้รับมาตรฐานจากสลากเบอร์ 5 และสามารถคำนวณค่าไฟได้ง่ายขึ้นเพื่อวางแผนลดค่าไฟฟ้าอีกด้วย
11. ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์
วิธีประหยัดไฟฟ้าวิธีที่ 11 เลือกติดตั้งโซลาร์เซลล์ หรือระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นอีกหนึ่งวิธีประหยัดค่าไฟที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากโซลาร์เซลล์สามารถลดค่าไฟได้มากถึง 40-60% จากราคาค่าไฟปกติ ทำให้คนเริ่มหันมาใช้โซลาร์เซลล์กันมากขึ้น โดยโซลาร์เซลล์มีข้อดีหลักๆ ดังนี้
-
- โซลาร์เซลล์เป็นระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใช้ได้แบบไม่มีวันหมด อีกทั้งประเทศไทยยังเป็นเมืองร้อน ทำให้หมดกังวลว่าจะไม่มีแสงแดดในการผลิตไฟฟ้า
- ช่วยทำให้บ้านเย็นขึ้น แผงโซลาร์เซลล์สามารถสะท้อนความร้อนออกไป ช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้านได้มากถึง 3-5 องศาเซลเซียส
- โซลาร์เซลล์ติดตั้งได้ง่าย ไม่ซับซ้อน ในปัจจุบันสามารถสั่งซื้อแผงโซลาร์เซลล์มาติดตามบ้านได้เลย โดยหลังจากการติดตั้งสามารถใช้งานได้ทันที ซึ่งทาง Sorarus เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำด้านโซลาร์เซลล์โดยเฉพาะที่มีประสบการณ์มากกว่า 40 ปี ที่พร้อมดูแลตลอดทุกขั้นตอนตั้งแต่การติดตั้ง จนถึงบริการหลังการขาย หากสนใจติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทาง Sorarus ได้เลย
สรุป
จากที่ได้รู้เคล็ดไม่ลับทั้ง 11 วิธีประหยัดค่าไฟฟ้ากันไปครบแล้ว จะเห็นว่าการวางแผนการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้านั้นเป็นสิ่งสำคัญ หากเรารู้จักปรับลดปริมาณการใช้ไฟฟ้า ก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น และสำหรับใครที่สนใจอยากติดโซลาร์เซลล์เพื่อลดค่าไฟ ไม่ว่าจะเป็นติดตั้งที่บ้าน หรือที่บริษัท สามารถติดต่อทาง Sorarus ที่เป็นผู้จัดจำหน่ายแผงโซลาร์เซลล์คุณภาพ พร้อมให้คำแนะนำและช่วยเหลือตลอดการใช้งาน ให้คุณได้ประหยัดเงินในระยะยาว และได้ใช้ไฟอย่างเต็มที่